การกระทำของตัวละครใน เลือด เจ้าพระยา ep4
ในตอนที่ 4 ของซีรีย์ เลือด เจ้าพระยา ตัวละครทั้งหลายมีการกระทำที่ต่างกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กดขี่ค่ายศักดิ์สิทธิ์ การสอบสวนของผู้ว่าราชการชั้นสูง และการสังหารของอาณาจักรหมิงหลังหลายปีที่แล้ว ซึ่งเหล่าตัวละครในเรื่องมีบทบาทมากมายในการเปลี่ยนแปลงความเคลื่อนไหวในเรื่องและมีการไล่ล่ากันตลอดเรื่อง
พระยามหานครได้ดำเนินการกดขี่ค่ายศักดิ์สิทธิ์ให้มีการออกตัวจากแผ่นดินอย่างมากมาย แต่ค่ายศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่เคยยอมแพ้และต้องการกลับไปยังโอชาสุดท้ายบนแผนที่เดิม ทั้งนี้เพื่อให้พระยามหานครหมดอำนาจและส่งผลกระทบต่อธุรกรรมในสุโขทัยที่เป็นเมืองหลักของราชอาณาจักร แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่มีผล ซึ่งสำหรับเขามาเป็นฝ่ายแพ้เสียก่อน
ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้โดยสารบนเรือได้เข้าเรือเพื่อเดินทางไปยังกรุงสยามแต่สถานการณ์กลับผันตัวไปอีกครั้ง เพราะว่าเหล่าคนในเรือได้กลายเป็นเบาะแว๊นและได้ถูกลูกเรือวางไว้บนเรือฝายตรงข้าม ทำให้เรือรับไว้ช้ามากขึ้น แต่เมื่อลูกเรือกลับมาเยี่ยมชมตัวโอ๊ต (แก้ม) ในท่าเรือปากน้ำสมุทรปราการ โอ๊ตกลับต้องถูกขังในโรงพยาบาลไปเนื่องจากเคยเสียเป็นโรคร้าย
อย่างไรก็ตาม บอสสีส้มก็ไม่ได้นอกจากการแสดงออกว่าเขาเป็นหัวหน้าและเลือกที่จะลอบเข้าไปอย่างไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังทำอะไร ซึ่งทางค่ายศักดิ์สิทธิ์ก็ได้รับการแจ้งเตือนแล้วว่าบอสสีส้มมีการฆ่าย้อนหลังมาจากการที่กันไปเสียแล้วในช่วงเวลาหนึ่ง และต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน นายตี๋ทางเดินทางไปถึงกรุงสยามและได้เข้าไปพบกับธานีทั้งในบทบาทของราชการชั้นสูงและบทบาทของผู้ช่วยของเขา เขาจึงเริ่มต้นที่จะดำเนินการค้นหาคำตอบเกี่ยวกับการสังหารของอาณาจักรหมิงช่วงหลายปีที่แล้ว แต่จำนวนผู้ที่ทราบข้อมูลและไม่ปรากฏตัวได้น้อยมาก ซึ่งทำให้เขาต้องตัดสินใจที่จะค้นหาคำตอบด้วยวิธีการอื่น
เมื่อเก่าสุดยอดของอาณาจักรหมิงปรากฏตัว นายตี๋ก็ได้กลับมาฝึกฝนเป็นเวทมนต์เพื่อใช้สำหรับการไล่ล่าและค้นหาคำตอบในคดีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต หรือใช้อารมณ์ของตัวละครอื่น ๆ ที่ล่วงลับมากมายเพื่อเข้าใจในตัวซึ่งเป็นศัตรูสำคัญของตัวละคร
ในส่วนที่ต่างมุ่งหวังอย่างแรงก็คือ ชมพู่และหนุ่มรัชทายาทที่ได้สอบสวนผู้กล่าวหาว่าเหมือนจะเป็นคนที่เคยเป็นมือปืนระหว่างชั่วคราว แต่ความคิดส่วนบุคคลของพวกเขาเองก็เกี่ยวกับการที่ตนเองเจอกับผู้ร้ายและต้องทำการยิงจนทำให้พวกเขาแยกต่างหาก
มีเหตุการณ์กลับเป็นทางที่จะช่วยให้ความคิดต่าง ๆ ของตัวละครทั้งหลายเข้าใจกันมากขึ้นอย่างมากเป็นพิเศษในที่นี้ ชมพู่รับรู้ว่าเธอเองมีความผิดในการยิงคนในโอ๊ตบนเรือในที่สุดและทำให้เธอมีความรู้สึกผิดรู้สึกในตัวเอง โดยที่หนุ่มรัชทายาทก็รู้ว่าไม่ใช่เขาเองที่ทำให้พวกเขาต้องสู้กันอย่างไม่มีเหตุผล
เป็นเรื่องใหญ่ที่ตัวละครคนหนึ่งอ้างว่าตนเองได้มีบทบาทในการสังหารอาณาจักรหมิงหลังหลายปีที่แล้วจนเข้าไปในห้องขังเป็นเวลาหลายปี แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อเหตุการณ์เหล่านั้น เพราะสำหรับตัวละครคนนี้ การได้สู่สุขภาพก็เป็นเรื่องยังไงก็อยู่ที่เขายังคงได้พัฒนาตนเอง และระบุว่าน่าจะไปพบกับคำตอบในตัวเขาเองเช่นกัน
ต่อมา ชมพู่ก็ได้รับการหลอมตัวกับหนุ่มรัชทายาทเป็นเรื่องเดียวกันเมื่อพวกเขาแชร์เหตุการณ์ที่แตกปีกในอดีตของพวกเขา ซึ่งความคิดเดียวกันคือว่าพวกเขาสามารถทำได้ดีซึ่งทั้งสองอย่างนั้นถึงจะเกิดขึ้นเมื่อเหตุการณ์ปัจจุบันอยู่ในกระแส ต่อมาชมพู่ก็ได้รับการแจ้งข่าวว่าจะต้องติดเตียงเพื่อการรักษารักษาอาการที่เป็นอัมพาตแล้วหลังจากที่นายหน้าเทียมเข้ามาทำร้ายเขาในสุดท้าย
นอกจากนี้ยังมีการไล่ล่ากันต่อเนื่อง โดยมีกลุ่มคนซึ่งเป็นกลุ่มของค่ายศักดิ์สิทธิ์ก้อนแก้วกับกลุ่มที่ตนเองกำเนิดขึ้นมาด้วย ซึ่งจะมีการต่อสู้และไล่ล่าต่าง ๆ อย่างมากมายและตลอดเรื่อง ในตอนที่ 4 ของเลือด เจ้าพระยา ตัวละครหลายคนได้กลายเป็นตัวร้ายและต้องทำการต่อสู้มากมายเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกรบกวน และได้ไม่ลงกับการฆ่ากัน
ในส่วนสุดท้ายผู้ชมก็ได้เห็นว่าเรื่องเลือด เจ้าพระยา เป็นเรื่องที่แสดงผลการกระทำของทั้งแฝงและเปิดเผยของตัวละครโดยประมาณ ซึ่งทำให้ไม่ว่าจะเป็นใคร ๆ ก็ต้องคิดและแสดงออกมาในตัวเขาเอง และทำให้เห็นว่าเรื่องการมีไวน์แล้วแต่ตัวละครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทั้งราชอาณาจักร บทความนี้เป็น 1000 คำในการสรุปเนื้อเรื่องของตอนที่ 4 ของซีรีย์ เลือด เจ้าพระยา แต่ก็ยังมีเรื่องราวอื่น ๆ ที่อาจจะน่าสนใจที่คุณควรดูต่อไปตามช่องทางต่าง ๆ ที่มีบริการเพื่อไม่ให้พลาดเนื้อหาที่น่าสนใจใด ๆ ทั้งสิ้น