2566 ปี คศอะไร – การเปลี่ยนแปลงในด้านศาสตร์และวัฒนธรรม
2566 ปี คศอะไร – การเปลี่ยนแปลงในด้านศาสตร์และวัฒนธรรม
2566 ปีที่ผ่านไปคือปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในด้านศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติฝั่งมหาสมุทร (Ocean revolution) หรือการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก เป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตของเราในปัจจุบัน กระแสความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้มีความสำคัญต่อการศึกษาศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างยิ่ง
ศาสตร์ได้รับการพัฒนาในปีนี้อย่างมากกว่าเดิม นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2566 มีการค้นพบความจริงใหม่ๆ ในด้านต่างๆ เช่น การค้นพบโลหะที่มีความแข็งแกร่งสูงยิ่งกว่าเหล็กด้วยการใช้เทคโนโลยีแบบเลเซอร์เมื่อเดือนกรกฎาคมปี ค.ศ. 2566 โดยมีการใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผลมาช่วย เทคโนโลยีในการพัฒนาโลหะนี้ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการเกิดโลหะ ในทำนองเดียวกันกับนี่คือการค้นพบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วเท่ากับสิ่งที่เรียกว่า Quantum Computer ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีโอกาสแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ได้อย่างมากกว่าเทคโนโลยีปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีการพิมพ์หนังสือด้วยเทคโนโลยีพิมพ์สามมิติ (3D Printing) หรือการสร้างโมเดลซึ่งมีความแม่นยำสูงที่มากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีพิมพ์สามมิติช่วยแก้ไขปัญหาในการผลิตสิ่งที่ซับซ้อนและใหญ่โตไม่สามารถผลิตได้ด้วยระบบการผลิตแบบเดิม และเทคโนโลยีนี้ยังสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตและลดปัญหาเรื่องขยายผลิตภัณฑ์ได้เช่นกัน
ด้านวัฒนธรรมก็ไม่หลงสนิทกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น ความรู้สึกจากภาพยนตร์ ซีรีย์ และหนังสือ เปลี่ยนไป เทคโนโลยีทำให้เรามีการเชื่อมต่ออยู่กันตลอดเวลา ข่าวสารได้เผยแพร่ไปทั่วโลกทันที อันเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน การใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้และการสื่อสารกันก็เป็นที่สองที่สำคัญ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวอย่างจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะมีผลกระทบทางบวกในระยะสั้นๆ แต่ก็มีผลกระทบลบในระยะยาว ซึ่งก็แปลว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นมีความสำคัญในการคาดการณ์เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อการคาดการณ์เหตุการณ์หรือสถานการณ์ต่างๆ เช่น การใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์เพื่อทำนายภาพเคลื่อนไหวของโลก การใช้อัลกอริทึมในการสร้างโมเดลทางพันธุกรรม และการใช้โมเดลทางชีวภาพเพื่อทำนายโรค
ด้วยเหตุนี้ทำให้การศึกษาศาสตร์และวัฒนธรรมมีความสำคัญอย่างยิ่ง มนุษย์จำเป็นต้องมีการศึกษาวิทยาศาสตร์เพื่อให้สามารถเข้าใจเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นและได้ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ชีวิตของมนุษย์ ส่วนการศึกษาวัฒนธรรมจะช่วยให้เราได้รับความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมได้อย่างถูกต้อง และสามารถทำความเข้าใจและกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาวัฒนธรรมได้อย่างเหมาะสม
ท้าว่าการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านนี้ จะก่อให้เกิดการพัฒนาในด้านอื่นๆ อีกมากมายในอนาคต และแน่นอนว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งเราก็จำเป็นต้องเรียนรู้และปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้และการปรับตัวนี้จะช่วยให้เรามีประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถดำเนินชีวิตในทิศทางที่มีความสุขและเต็มเปี่ยมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในส่วนของการศึกษาศาสตร์และวัฒนธรรม ผมขอเรียนเชิญชวนให้ทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้และการเรียนรู้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อคล้ายคลึงกับหลักสูตรการเรียนรู้แบบ PBL (Problem-Based Learning) สามารถตอบโจทย์และตอบปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราควรที่จะโฟกัสไปที่การพัฒนาตนเองและโลกในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม หรือการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์แก่คนดังกล่าวและสิ่งแวดล้อม
สุดท้ายนี้ผมต้องการเชิญชวนให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้และการศึกษา ไม่ว่าจะอยู่ในยุคใดๆก็ตาม เราต้องรักษาความรู้เก่าๆ และยอมรับว่าเรารู้สึกไม่มีอะไรใหม่ๆ ระหว่างที่เราพยายามเรียนรู้และพัฒนาตนเอง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนและผู้ช่วยเหลือเทคโนโลยีจากภิกษุมาแต่วันนั้นจนถึงวันนี้จะต่อเนื่องตลอดไป ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไว้ตลอดเวลาของชีวิตเรา และไม่ควรทิ้งความรู้เก่าๆไว้รอดูอะไรใหม่ๆกลับมาอีกเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงใหม่ เพราะการศึกษาศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำเสนอความรู้ให้กับเราในการตัดสินใจของชีวิตและในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในกายภาพและจิตใจในชีวิตของเรา อย่าลืมว่าความรู้คือความเป็นไปจริงและคิดได้จริง โดยไม่มีวันล้มเหลวในการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างที่เราพบเห็นในปี 2566 นี้