ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พบว่ามีการวิจารณ์หรือคำว่า “ข้าเซ็นสัญญา” หรือ “ข้า” ที่ถูกวิจารณ์และถูกว่าไม่เหมาะสมในการเป็นจอมมารชุดที่ 2 ในเกมเพลย์ของเกมออนไลน์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นจากคนในวงการเกม แฟนคลับหรือผู้เล่นทั่วไป ก็มีคนคิดว่าไม่สมกับตำแหน่งนั้น ในบทความนี้จะมองผ่านมุมมองของผู้รู้จักเกม และผมจะอธิบายว่าทำไมกลุ่มคนมีความคิดแตกต่างกันเพียงแค่เหล่านี้
ก่อนอื่นเลย ผมต้องอธิบายก่อนว่า “ข้า” หรือ “ข้าเซ็นสัญญา” มาจากในเกมออนไลน์ที่ชื่อว่า “Soul Knight” ซึ่งเป็นเกมส์นิยมระดับโลกของผู้เล่นเกมออนไลน์ โดยที่ตัวละคร “ข้า” จะมีตำแหน่งเป็น “จอมมาร” ที่เป็นการเล่นที่ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวละครและการเลือกใช้วิธีการต่อสู้อย่างมีเหตุผล การเล่นประเภทนี้จะต้องการ ระบบการจัดการทีมและการปรับพ้อยท์ด้วย โดยทั่วไปแล้ว ตัวละครจะถูกจัดแบ่งออกเป็นหลายสายอาชีพและมีความสามารถแตกต่างกันออกไป โดยที่ “ข้าเซ็นสัญญา” ถือเป็นหนึ่งในเลเวลสูงของตัวละครในฝ่ายของ “จอมมาร”
ต่อมา ผมจะมาอธิบายว่าทำไมหลายคนเชื่อว่า “ข้า” ไม่เหมาะสมในหน้าที่ของ “จอมมาร”…
เงื่อนไขการเล่นของ “ข้าเซ็นสัญญา” ไม่เหมาะสม
ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงเงื่อนไขการเล่นของ “ข้าเซ็นสัญญา” ที่มีความไม่เหมาะสมกับงานที่ต้องทำของ “จอมมาร” ในเกมส์ ซึ่งตัวละครนี้ถูกออกแบบมาให้มีค่าดาเมจที่สูงและเป็นเลเวลสูงเกินไปทำให้ตัวละครนี้ไม่สามารถส่งเสริมประสิทธิภาพของทีมได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขการเล่นที่ต้องการใช้ท่าพิเศษหรือสกิลบางอย่างเพื่อเพิ่มความรุนแรงในการต่อสู้ ทำให้ผู้เล่นต้องคำนึงถึงกระบวนการเลือกเล่นและจัดทีมอย่างมีเหตุผล
ด้วยเงื่อนไขการลงทีมแบบนี้ผู้เล่นจึงต้องเลือกเล่นตามวิธีการและหาพวกเพื่อนร่วมทีมที่เหมาะสม เพื่อให้ทั้งหมดเข้าไปเล่นร่วมกันในทีมเดียวกัน แต่ก็พบว่าหลายคนไม่ชอบการต้องพึ่งพาทีมอื่น เพราะการเล่นแบบนี้จะมีการแบ่งแยกค่าไอเทมและค่าประสิทธิภาพในการต่อสู้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับสายอาชีพอื่นๆของ “จอมมาร” ซึ่งทำให้ผู้เล่นต้องเพิ่มเติมความแข็งแกร่งของตัวละครและหาช่องทางในการทำงานร่วมกับทีมอื่นให้ดียิ่งขึ้น
ปัจจัยเกี่ยวกับระบบการสกิล “ข้าเซ็นสัญญา”
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ “ข้าเซ็นสัญญา” ไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง “จอมมาร” คือ ตัวสกิลของตัวละคร เป็นสมบัติที่มีค่าดาเมจที่สูงเหมือนกับเงื่อนไขการเล่นของ “ข้า” โดยพวกเราจะเห็นว่าการใช้สกิลหรือท่าพิเศษหลายอย่างนั้นเป็นเรื่องที่ยากและต้องมีการวิเคราะห์ถึงระบบการสกิลโดยละเอียด ซึ่งฝึกฝนการใช้สกิลนี้จึงต้องใช้เวลาและความอดทนเพื่อฝึกฝนการใช้งานอย่างประณีต
นอกจากนี้ “ข้าเซ็นสัญญา” ยังมีเรื่องของการเลี้ยงลูกเมีย ทำให้ถือเป็นหนึ่งในตัวละครที่ต้องการความหวังในการเก็บเหรียญเพื่อเพิ่มค่าความสามารถของตัวละครและลูกเมีย ซึ่งที่ผู้เล่นเกมส์เป็นยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ถ้าหากผู้เล่นไม่มีพื้นฐานด้านการดำเนินเหรียญเพื่อเสริมสร้างค่าพลังในการต่อสู้ยิ่งกว่านั้นอีกด้วย
ความง่ายดายของการเล่น “ข้าเซ็นสัญญา”
ในการเป็นจอมมารชุดที่ 2 ผู้เล่นจะต้องมีประสบการณ์ในการเล่นและมีทักษะแบบถาวรในการต่อสู้สูงสุด นั่นคือต้องมีทักษะที่ดีในการเปลี่ยนไลน์เตะ การตีศึกษา การมองหาและการรวมกันอย่างมีเหตุผล นอกจากนี้ ยังต้องมีทักษะในการวางแผนการเดินเกมและรูปแบบของการควบคุมลูกบอลอย่างมีเหตุผล และการใช้สกิลให้ได้ผลเพื่อเพิ่มค่าดาเมจอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ใน “ข้าเซ็นสัญญา” กลับเป็นเกมส์ที่สามารถจะได้รับการเล่นแบบนี้ได้อย่างง่ายดายแต่ก็ต้องการความตั้งใจในการเรียนรู้และการทดลอง นอกจากนี้ ยังแนะนำว่าผู้เล่นควรมีทิศทางในการวางแผนการเดินเกม การปรับการควบคุมลูกบอลเมื่อต้องการ และการใช้สกิลของตัวละครอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อต้องการกวาดรอบที่ผ่านมาในการเล่น
สรุป
ในส่วนของความคิดเห็นในเรื่องของ “ข้าเซ็นสัญญา” ว่าตัวละครนี้ไม่เหมาะสมในการเป็นจอมมารชุดที่ 2 ผมจะบอกว่าด้วยระบบการเล่นแบบของตัวละครนี้ การจัดทีมและการผสมผสานความแข็งแกร่งของตัวละครและทีมอย่างมีเหตุผล การใช้สกิลของตัวละครอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมีความยากลำบากขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรจะมีความเตรียมตัวและความพร้อมในการต้องการการเปลี่ยนแปลง การปรับใช้งานและการทำเพื่อนให้เหมาะสมกับการเล่นให้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้เล่นมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน จุดยืนของด้านนี้นั้นยังจะสิ้นสุดลง ณ ปัจจุบัน
