ความหมายของการใส่แค ป ชั่ น วัน พระ
การใส่แค๊ปชั่นวันพระในวัฒนธรรมไทยถือเป็นธรรมเนียมที่มีความสำคัญอย่างมากๆ โดยเฉพาะกับชาวไทยที่ต้องการให้ชีวิตของตนเองและครอบครัวมีความเป็นศรัทธาและทำเนียบบั้งได้เหมือนกับบุคคลอื่นๆ ไทยมักจะหยิบแค๊ปชั่นของตัวเองออกมาแต่งตัวในวันพระเพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพและสักการะต่อพระองค์ และพระเครื่อง เพราะเชื่อว่าการใส่แค๊ปชั่นวันพระจะทำให้ได้รับพรองค์ที่ดีและประสบความสำเร็จในชีวิตของตนเอง
การใส่แค๊ปชั่นวันพระนั้นมีความหมายอย่างมากมาย ซึ่งแต่ละความหมายก็เกี่ยวข้องกับการแสดงความเคารพและบูรณะภาพของบุคคลนั้นๆ ในสังคมไทย ต่อไปนี้คือความหมายของการใส่แค๊ปชั่นวันพระที่สำคัญที่สุด
1. ตราบใดที่เจ้าภาพให้กำหนดให้แต่ละรายใส่แค๊ปชั่นวันพระ จึงจะต้องปฏิบัติตามเพื่อแสดงความเคารพและบูรณะภาพ
2. การใส่แค๊ปชั่นวันพระเพื่อสักการะต่อพระองค์ และพระเครื่องของพระองค์
3. เป็นการแสดงถึงความเป็นศรัทธาในสิ่งที่เราเคารพ เช่น บิดามารดา พระ ฯลฯ
4. สัญลักษณ์ของความเป็นไทยและการตามศีลธรรม
การใส่แค๊ปชั่นวันพระในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมากเมื่อเทียบกับวันก่อนๆ โดยคนในยุคนี้มักใช้แค๊ปชั่นเพื่อสวมใส่เป็นเสื้อผ้าทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่หลังจากที่มีกฎหมายรับรู้ให้เป็นสักการะในสิทธิแห่งความเคารพความสว่างของบุคคล ผู้คนจึงเริ่มใช้แค๊ปชั่นในวันพระให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้
การใส่แค๊ปชั่นวันพระเป็นการเชื่อมโยงกับศรัทธาและการเคารพในความเป็นไทย ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่สำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะในเรื่องของการแย่งชิงพื้นที่และรักษาชื่อเสียงของชาติหรือในศิลปะและวัฒนธรรมต่างๆ ความเป็นศรัทธานั้นได้กลายเป็นผลประโยชน์ต่อชีวิตของคนไทยเป็นอย่างมาก
ในทุกๆวันพระ มนุษยชาติทั้งหลายจะมีการใส่แต่งกายให้เป็นรูปแบบพิเศษเพื่อเป็นการเคารพการบูรณะภาพ และสักการะต่อพระองค์ไม่ว่าจะเป็นการใส่แคปหมุดขึ้น หรือเสื้อผ้าที่มีลายพระองค์หรือลายพระพุทธรูป ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพและสักการะต่อพระองค์ และพระเครื่อง เพื่อต้องการอนุสาวรีย์และสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เราได้รับจากพระองค์
ในการใส่แต่งกายในวันพระสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. แป้งและกระชับผม
2. ใส่แต่งกาย
แป้งและกระชับผมเป็นการเน้นลักษณะเส้นผมและหน้าบวม ซึ่งนับได้ว่าเป็นการทำความพึงพอใจและเอื้อเฟื้อเรื่องความสวย ซึ่งต่อมานักวิจัยพบว่าการใส่แต่งกายมีผลต่อการทำงานและแนวโน้มของอาชีพ สำหรับผู้หญิงการแต่งกายสวยงามเป็นสิ่งที่ดังนั้นการใส่แคปชั่นวันพระไม่ได้จำกัดไปกับ개ุ้งไหนพระไหนแต่เพื่อเป็นการภาวนาขอพรองค์จากพระองค์
กำหนดให้ใส่แป้งและกระชับผมเพื่อเคารพความเป็นไทย ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่และสัมผัสกับศิลปะและวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับใบหน้าและผมของเรา สามารถพัฒนาและปรับปรุงตนเองให้ดียิ่งขึ้น เชื่อมโยงกับความเป็นไทย และศีลธรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการชีวิตและการทำงานด้วย
สำหรับการใส่แต่งกายในวันพระนั้นจะต้องเป็นเสื้อผ้าที่ชัดเจนและตระหนักในความสวยงามของเสื้อผ้าเช่นเดียวกับการใส่แต่งกายประจำวัน ซึ่งต้องดูระดับของวิทยากร สถาปนาจากแต่งเพลินวัด หรือประเพณีในภูมิภาคที่ต้องการประจำในชุดที่เหมาะสม หากแต่ เราไม่ใช่คนเชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมก็สามารถสวมใส่ชุดทีี่จัดหาได้ง่ายๆ เช่น ชุดพระเอกหรือชุดเยาวชนที่มีตราพระได้รับความนิยมด้วย
ในสังคมไทยปัจจุบัน การใส่แคปชั่นวันพระนั้นได้ถูกตีความอย่างแท้จริงว่าเป็นการศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมมากขึ้น เป็นการให้คนไทยรักษาความเป็นไทยและเชื่อถือในถิ่นของตนเอง ซึ่งการสร้างสรรค์และออกแบบแคปชั่นที่หลากหลายในปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจและท้าทายมนุษย์ และที่สำคัญคือเป็นการสร้างสรรค์เพื่อเคารพการบูรณะภาพของพระองค์และวัตถุดิบต่างๆ ทั้งนี้ซึ่งก็เป็นสิ่งสำคัญเอาไว้ในวิถีชีวิตของคนไทย.